ผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียหลายคนคงจะได้ยินข่าว หรือแม้แต่กำลังทดลองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากเลือด จระเข้โดยเชื่อว่าจะสามารถช่วยอาการซีดของตนได้ มีผู้ป่วย ธาลัสซีเมียบางรายที่มีความสงสัยว่า “เลือดจระเข้จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียได้จริงหรือไม่” และอยากได้คำ ตอบ
เรามาลองทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือด จระเข้และโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย กันก่อนดีไหม
อาหารเสริมเลือดจระเข้ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ที่มีการวิจัยอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลือดจระเข้ทำมาจากเลือดจระเข้ที่ ผ่านการฆ่าเชื้อโรคโดยกรรมวิธี pasteurization และขั้นตอนการ ทำระเหิดแห้ง ซึ่งทำให้โปรตีนในเลือดจระเข้ยังคงคุณภาพ ไว้ได้
ธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางที่เกิดจาก กรรมพันธุ์ ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติออกมา
อาหารเสริมเลือดจระเข้แคปซูล Wynn (วินน์)
จากผลการทดลองในหนูทดลองที่เป็นโรคโลหิตจางจากการ ขาดธาตุเหล็ก พบว่า ภายหลังการบริโภคเลือดจระเข้แล้วทำให้ มีค่าฮีโมโกลบินสูงขึ้น
เลือดจระเข้ 1 แคปซูล หนัก 310 มิลลิกรัมนั้น ความจริงแล้วเลือดจระเข้ใน 1 แคปซูล มีส่วนที่เป็นเลือดจระเข้อยู่ 250 มิลลิกรัมเท่านั้นที่เหลือเป็นน้ำหนักแคปซูล ซึ่งจากการศึกษา องค์ประกอบของเลือดจระเข้ ดังตาราง
จะเห็นว่า
เลือดจระเข้ 100 กรัม มีธาตุเหล็ก 164 มิลลิกรัม
เลือดจระเข้ 1 กรัม มีธาตุเหล็ก 164/100 มิลลิกรัม
จะได้เลือดจระเข้ 1 กรัม มีธาตุเหล็ก = 1.64 มิลลิกรัมเท่านั้น
เลือดจระเข้ 1 แคปซูลมีเลือด 250 มิลลิกรัม (1 กรัม =1000 มิลลิกรัม)
จะมีธาตุเหล็ก 0.41 มิลลิกรัม เท่านั้น
ถ้าทาน 2 แคปซูลก็จะมีธาตุเหล็ก 0.82 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณธาตุเหล็กที่ผู้บริโภค 0.82 มิลลิกรัมนั้นไม่สูง ถ้าเทียบกับการกินยาเม็ดธาตุเหล็ก 1 แคปซูล จะมีเหล็ก อยู่ 60 มิลลิกรัม มีปริมาณที่สูงมากกว่าเลือดจระเข้ไม่น้อยกว่า 70 เท่า
ธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อร่างกาย ร่างกายต้องการไม่มากเพียง 1-2 มิลลิกรัมต่อวัน?? (ข้อมูลเกี่ยวกับธาตุเหล็กเพิ่มเติม) จึงเห็นได้ว่า ธาตุเหล็กที่ได้รับเข้าไปน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน ?
จากการศึกษาในหนูทดลองตามมาตราฐานสากล ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมการใช้สัตว์ทดลอง ที่ศึกษาพิษเรื้องรังของเลือดจระเข้ โดยให้หนุทดลองกินยาเม็ดธาตุเหล็ก 6 เดือน เปรียบเทียบกับหนูที่กินเลือดจระเข้ 6 เดือน พบว่าลักษณะของตับและตับอ่อน ของหนูที่กินยาเม็ดธาตุเหล็ก มีสีเข้มมาก และขนาดใหญ่กว่าหนูที่กินเลือดจระเข้? แสดงให้เห็นว่าเลือดจระเข้ที่กินเข้าไป ทำให้สภาวะของตับและตับอ่อนปกติ
ภาพที่ 1 สภาพของ ตับและตับอ่อนของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้อยู่ในสภาวะโลหิตจาง ของกลุ่มที่กินยาเม็ดธาตุเหล็ก และกลุ่มกินเลือดจระเข้ระเหิดแห้งเป็นเวลา 6 เดือน ที่มีลักษณะของอวัยวะทั้งสองต่างกัน
ข้อมูลจากผู้บริโภคที่เป็นธัลลาสซีเมีย รับประทานอาหารเสริมเลือดจระเข้มาเป็นเวลานาน จะช่วยให้ผู้ป่วยธัลลาสซีเมียมีการสร้างเม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด และเม็ดเลือดขาวดีขึ้นกว่าเดิม สังเกตได้จากระดับของเม็ดเลือดแดงอัดแน่นสูงขึ้นกว่าเดิมก่อนที่กินเลือดจระเข้ แต่รูปร่างของเม็ดเลือดแดงก็ยังมีความผิดปกติเหมือนเดิมเนื่องจากเป็นพันธุกรรมมาตั้งแต่เกิด ผู้ป่วยไม่ได้หายจากการเป็นธัลลาสซีเมีย แต่ช่วยให้ลดอาการเหนื่อยหอบได้ เนื่องจากมีเม็ดเลือดแดงที่มากขึ้น
ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และ การดำเนินชีวิตในประจำวันที่ถูกต้อง